จำได้ว่าตอนที่มาสมัครเรียนตอนนั้นได้ตกลงไว้กับเพื่อนคนหนึ่งชื่อว่าสังวร
ซึ่งบวชเรียนเหมือนกัน ว่าจะมาเช่าหอพักอยู่ด้วยกัน จึงได้ทำการมัดจำหอพักเอาไว้ด้วยกัน แต่เนื่องด้วยหลาย ๆ
ปัญหาทำให้นายสังวรต้องไม่ได้มาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ทำให้ผมต้องอยู่เพียงลำพัง........
ผมย้ายมาก่อนมหาวิทยาลัยจะเปิดอยู่หนึ่งอาทิตย์เพื่อปรับสภาพเข้ากับสังคมใหม่ หนึ่งวันผ่านไปผมใช้ชีวิตต่าง
ๆ อยู่แต่ในหอพัก ไม่กล้าออกไปไหน อาจจะเป็นเพราะว่าผมกลัวก็ว่าได้
และอีกอย่างที่ผมยังไม่ได้บอกให้กับผู้อ่านได้รู้นั้นคือ ผมขับรถจักรยานยนต์ยังไม่เป็น เพราะผมบวชมาเกือบ ๖ ปี จึงไม่ได้มีโอกาสฝึกหัดขับ ผมจึงบอกให้แม่ซื้อรถจักรยานให้ผม ๑ คัน ยี่ห้อ L.A สีดำ ซื้อพร้อมกับแป้งกะเบลล์ (เพื่อนบ้านแม่หล่ายที่มาด้วยกัน
แต่เรียนคนละคณะกับผม
ทั้งสองเรียนคณะวิทยาการจัดการ)
ผมตื่นขึ้นมาตอนเช้าตรู่มาก จะค่อย ๆ ออกหอพักปานประหนึ่งว่า
กลัวหอพักจะถล่ม ผมค่อย ๆ เดินลงไป แล้วก็ปั่นจักรยานคู่ใจของผมไปร้านเซ่เว่นหน้ามหาลัย คนก็ไม่ค่อยจะเยอะเท่าไรครับ ผมก็จะเดินไปซื้อน้ำพริกปลาป่น ถุงละ ๑๕ บาท
คิดในใจชีวิตช่างรันทดแท้ ๆ
หลังจากนั้นก็กลับไปหอพัก
หุงข้าวเตรียมกินอาหารเช้า พอว่าง
ๆ ก็ฟังวิทยุคลื่นนั้นบ้าง คลื่นนี้บ้าง...... และที่ขาดไม่ได้เลย ก็คือจะโทรไปหาแม่ทุก ๆ
ครั้งที่เกิดอาการเหงา
บรรยากาศยามค่ำคืนที่หอพักแสงวรรณคอร์ท ในช่วงนั้นเป็นบรรยากาศที่ดีทีเดียว เพราะเป็นช่วงที่หน้าร้อนจะเข้าสู่หน้าฝน ผมก็นอนมองหน้าต่างตรงหอไป
ลมก็พัดมาเป็นระยะ
เสื้อกางเกงที่ห้อยอยู่บนบานประตูก็ไหวไปตามลม บนตึกหอพักก็มีเสียงพูดคุยกัน
หัวเราะเสียงดังกัน สำหรับผมแล้วผมยิ้มและร้องไห้ในเวลาเดียวกัน.......
ก่อนที่จะถึงวันปฐมนิเทศ
“ก้าวแรกสู่ความเป็นครู” นั้นได้มีประกาศออกมาจากทางมหาวิทยาลัยฯ
ให้นักศึกษาที่จะเรียนครูทุกวิชาเอก รหัส ๕๒ ไปสอบวัดแววความเป็นครูก่อน !!
หากว่าผ่านแล้วจึงจะสามารถเข้าเรียนในคณะครุศาสตร์ได้อย่างสมศักดิ์ศรีของสถาบันการผลิตครู ผมถอนหายใจและก็คิดหนักเป็นอย่างมาก เราจะเรียนไหวไหม....ถ้าเรียนไม่จบละ
จะทำอย่างไรต่อไป ก็คิดไปเรื่อย ๆ แต่สุดท้ายก็ได้เตรียมตัวเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยละครับ
ผมคิดไว้ว่าถ้าเกิดสอบวัดแววไม่ติดคณะครุศาสตร์ ก็จะย้ายไปเรียนคณะสังคมศาสตร์ เอกสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา
ทันที นี้แหละ.......ชีวิต......แต่ก็กลัว ๆ เหมือนกัน
“บ้างครั้งชีวิตคนเราก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบดอกกุหลาบเสมอไป.....”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น